พลิกผืนนา เพาะเห็ดตับเต่าขายกันดีกว่า

พลิกผืนนา เพาะเห็ดตับเต่าขายกันดีกว่า

เพาะเห็ดตับเต่าบนผืนนา
เห็ดตับเต่า เกิดใต้ต้นโสน
ไม่เอาแล้วครับทำนา ต้องไถ ต้องคราด ต้องเกี่ยว ต้องเก็บ..เหนื่อย.. หันมาเพาะเห็ดตับเต่าขายอย่างเดียวดีกว่า” เป็นเสียงบ่นของคุณสมยศ วงษ์สถิตย์ อายุ 60 ปี ชาวนา ต.สามเรือน อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยาครับ คือคุณลุงคุยให้ฟังว่า ปลูกโสนไว้ในแปลงนาประมาณ 5 ไร่ เก็บเห็ดตับเต่าขายได้วันละประมาณ 15-20 กก. แต่หากช่วงไหนเห็ดออกดีจะได้มากถึงวันละ 40-50 กก. ในปีหนึ่งๆถึงจะเก็บได้แค่ 4 เดือน คือช่วงเดือน พฤษภาคม – เดือนสิงหาคม แต่คุณลุงก็ได้เงินเข้ากระเป๋าประมาณ 3-4 แสนบาท ดีกว่าทำนาเป็นไหนๆครับ
เห็ดตับเต่า
หากใครได้มีโอกาสได้ไปเยือน ต.สามเรือน จ.พระนครศรีอยุธยา ก็จะเห็นหลายหมู่บ้านเต็มไปด้วยดงต้นโสน พลิ้วไสวตามสายลม ออกดอกเหลืองอร่ามทั่วทุ่ง เพราะเจ้าของสวนตั้งใจปลูกและดูแลอย่างดี ไม่ปล่อยให้แห้งตายเหมือนก่อนอีกต่อไปแล้ว เหตุผลก็เพราะว่า ใต้ต้นโสนที่พวกเขาดูแลอย่างดีนี้ เป็นขุมเงินขุมทอง เป็นขุมทรัพย์ ที่อยู่บนดินนั่นเองครับ เพราะใต้ต้นโสนที่เห็นอยู่นี้ เป็นแหล่งเพาะเห็ดตับเต่ารายใหญ่ ที่มีราคาสูงถึง  80–100 บาท / กิโลกรัม เลยทีเดียว สำหรับความเป็นมาและสาเหตุที่มีเห็ดตับเต่าเกิดขึ้นใต้ต้นโสนนั้น คุณเอนก วงษ์สถิตย์ ซึ่งเป็นพี่ชายของคุณสมยศ เล่าให้ฟังว่า เดิมทีเป็นคนภาคอีสานแต่พลัดถิ่นมาทำงานอยู่ที่นี่ เห็นเห็ดตับเต่าที่เกิดตามธรรมชาติทั่วไป ก็เก็บมากิน คนในพื้นที่เห็นเข้าก็ลองทำตาม ปรากฏว่าเป็นเห็ดที่มีรสชาติอร่อยถูกปาก จึงได้พยายามทดลองหาวิธีเพาะเห็ดตับเต่าดู ในที่สุดพบว่าใต้ดงโสนนี่แหละ คือแหล่งเพาะเห็ดตับเต่าที่ดีที่สุด โดยไม่ต้องไปเพาะที่อื่นให้ยุ่งยาก เพียงแค่นำเชื้อเห็ดตับเต่ามาผสมกับน้ำ หรืออาจเพิ่มด้วยกากน้ำตาลอีกเล็กน้อย หมักไว้ประมาณ 1 เดือน-เดือนครึ่ง จากนั้นก็นำมาฉีดพ่นบริเวณโคนต้นโสน หลังจากนั้นก็ให้น้ำเพียงวันละ 1 ครั้ง เพื่อให้ดินชุ่มชื้นรออีกประมาณ 1 อาทิตย์ ก็จะเห็นเห็ดตับเต่าผุดขึ้นมา ให้เก็บขายได้วันละ 2 ครั้ง (เช้ากับเย็น) ส่วนเรื่องตลาดคุณลุงบอกว่าไม่ต้องห่วงครับ เก็บได้เท่าไรขายได้หมด เพราะมีพ่อค้ามารับซื้อถึงบ้าน แต่ละวันจะมีเห็ดตับเต่ามากหรือน้อยนั้นก็ขึ้นอยู่กับพื้นที่เพาะเห็ดตับเต่าของชาวบ้านแต่ละคน ถึงแม้ทุกวันนี้จะมีชาวบ้านละแวกนั้นทำการเพาะเห็ดตับเต่ากันอยู่หลายราย แต่เห็ดก็ยังไม่พอขาย เรียกได้ว่าขายดีเป็นเทน้ำเทท่าครับ แต่โดยส่วนตัวของคุณเอนกเอง ซึ่งเป็นผู้ริเริ่มเพาะเห็ดตับเต่า ปลูกดงโสนไว้เพียง 2 ไร่เท่านั้น เก็บได้เพียงวันละ 2–4 กก. คุณอเนกยังบอกอีกว่า ถึงจะได้ไม่มากมายอะไร แต่ก็รู้สึกภูมิใจแล้วกับอาชีพอิสระที่ไม่ยุ่งยากอะไร แถมยังมีรายได้จุนเจือครอบครับถึงเดือนละ 6–7 พันบาทเลยทีเดียว ฟังดูแล้วก็อยากลองดูบ้านนะครับ..และสุดท้ายต้องขอขอบพระคุณข้อมูลดีๆจาก คุณเอนก วงษ์สถิตย์ และคุณสมยศ วงษ์สถิตย์ เกษตรกรผู้มีแนวคิดพัฒนา ตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง ที่เอื้อเฟื้อข้อมูลดีมีประโยชน์..ขอให้รวยๆครับ

ที่มา: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ